... เรื่องของสารทำความเย็นหรือน้ำยา กับการวิเคราะห์ระบบท่อ ... ในระบบทำความเย็นขนาดเล็ก ซึ่งหมายถึงเรื่องของตู้เย็น ตู้แช่ แอร์บ้านแบบธรรมดา สารทำความเย็นหรือน้ำยาที่เรารู้จักกันนั้นก็จะมีมากมายหลายเบอร์ที่นำมาใช้งานในปัจจุบัน(พ.ศ.2565) ตัวอย่างเช่นถ้าเป็น - ตู้เย็น ตู้แช่ น้ำยาที่มีใช้ก็เริ่มจาก ... R-12 บรรจุในถังสีขาว ซึ่งปัจจุบันได้มีการยกเลิกการใช้ไปแล้ว เนื่องจากตัวน้ำยาสามารถ สร้างมลพิษและทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน และสภาวะเรือนกระจกได้ ... R-134a บรรจุในถังสีฟ้าอ่อน ใช้งานมากในเรื่องของตู้เย็น ตู้แช่ต่างๆ และมีการใช้ในแอร์ รถยนต์ ... R-600a บรรจุในถังสีส้ม ส่วนใหญ่มักมากับตู้เย็น ตู้แช่ที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ มีการใช้ใน ปริมาณที่น้อย/ตู้ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น เพราะสภาพของน้ำยาที่มีคุณสมบัติ ใกล้เคียงกับก๊าซหุงต้มนั่นเอง ... R-290 บรรจุในถังสีเทา (ถ้าสีผิดต้องขออภัยด้วย) ตู้รุ่นใหม่ๆเริ่มนำมาใช้กันมากขึ้น คุณสมบัติเหมือนกับ R-600a แต่แรงดันที่ใช้งานจะมากกว่า - แอร์บ้านธรรมดา และแบบอินเวอร์เตอร์ ... R-22 บรรจุในถังสีเขียว ใช้ในแอร์บ้านแบบธรรมดาหรือแบบ Fix Speed ปัจจุบันยังมี การให้ใช้ได้และจะยกเลิกการใช้อย่างถาวรในเร็วๆนี้(อาจจะเป็นปีพ.ศ. 2570) ... R410a บรรจุในถังสีชมพู มาพร้อมๆกับแอร์ที่เป็นอินเวอร์เตอร์ในรุ่นแรกๆ เป็นน้ำยาหรือ สารทำความเย็นที่มีส่วนผสมระหว่างน้ำยา 2 เบอร์นั่นคือ R-32 กับ R-125 ที่ สำคัญก็คือเวลาเติมน้ำยาแบบนี้ต้องทำการคว่ำถังเติมเพื่อให้เป็นของเหลว เนื่องจาก จะมีส่วนผสมของน้ำยาที่เป็น R-410a ได้สมบรูณ์ นั่นก็คือ (R-125 50% และ R-32 50%) ... R-32 บรรจุในถังสีแดง แต่ในปัจจุบันก็มีบรรจุในถังสีอื่นๆด้วยมีใช้ทั้งแอร์แบบธรรมดา และ แบบอินเวอร์เตอร์ ตัวอย่างคร่าวๆสีของถังน้ำยาในแต่ละเบอร์ ... เนื่องจากน้ำยามีมากมายหลายเบอร์เราจึงจะกล่าวแค่น้ำยาที่ใช้ในงานของระบบทำความเย็น ขนาดเล็กเท่านั้น เราสามารถดูสถานะของน้ำยาแต่ละเบอร์ที่ใช้ได้ตามรูปด้านล่าง ... จุดประสงค์ที่ต้องศึกษาเรื่องคุณสมบัติของน้ำยาในแต่ละเบอร์ จะทำให้เราได้รู้ถึงความผิดปกติ ของระบบท่อได้ โดยจะเริ่มจากวงจรของน้ำยา หรือที่เราเรียกว่า “ วัฏจักรของน้ำยา “ นั่นเอง คุณสมบัติของน้ำยาจะมีดังนี้ - แรงดันในสภาวะปกติของน้ำยา หรือ Standing Pressure เป็นค่าแรงดันตามมาตรฐาน ของน้ำยาแต่ละเบอร์ ซึ่งจะไม่เท่ากันตัวอย่างเช่น R-134a = 80-95 หน่วยเป็น psi หรือถ้าเป็น R-410a ก็จะ = 225-230 หน่วยเป็น psi เป็นต้น ***** และแรงดันปกติตรงนี้ สามารถนำมาเปรียบเทียบแรงดันเสมอระหว่างด้านแรงดันสูงกับ ด้านแรงดันต่ำ หรือที่เราเรียกว่า “ แรงดันบาล้านซ์ “ ได้อีกด้วย นั่นก็หมายความว่า เมื่อเวลาคอมเพรสเซอร์หยุดการทำงาน แรงดันทั้ง 2 ฝั่งจะต้องเท่ากันยกตัวอย่างเช่น ... ถ้าเป็นตู้เย็นใช้น้ำยา 134a ในขณะที่คอมฯทำงานจะอยู่ที่ 12-15 psi แต่เมื่อ คอมฯหยุดทำงานและถ้าเราสวมมินิโฟลด์-เกจด์ ไว้ที่หัวเติมน้ำยา เราจะเห็นว่า เข็มในเกจด์ฯ จะค่อยๆขึ้นไปจนถึง 60-80 psi นั่นคือระบบท่อปกติ ... ***** - แรงดันที่ออกจากท่ออัดของคอมเพรสเซอร์ หรือ Discharge Pressure หรือแรงดันสูงใน ขณะที่ทำงานในระบบ เป็นแรงดันที่เกิดจากการอัดของคอมเพรสเซอร์ที่มีต่อน้ำยานั้นๆ จากไอ หรือก๊าซธรรมดาเป็นไอหรือก๊าซที่มีความร้อน/อุณหภูมิสูง และแรงดันสูงที่เพิ่มขึ้นจากสภาวะปกติ ตัวอย่างเช่น ... R-134 แรงดันปกติที่ 80-95 psi เมื่อถูกคอมฯอัดออกมาจะได้ = 150 psi … R-410aแรงดันปกติที่ 225-230 psi เมื่อถูกคอมฯอัดออกมาจะได้ = 450-500 psi - แรงดันกลับที่เป็นไอหรือก๊าซ หรือ Suction Pressure ที่กลับมายังท่อดูดของ คอมเพรสเซอร์ที่มีสภาพเป็นไอหรือก๊าซในขณะที่คอมฯกำลังทำงานอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ... ถ้าเป็น R-134a จะมีแรงดันเพียง 12-15 psi ... ถ้าเป็น R-410a จะมีแรงดันที่ 120-140 psi เป็นต้น
ร้านสุขประเสริฐเซอร์วิส ที่อยู่ : เลขที่ 35 ซ.จรัลสนิทวงศ์ 89เขต : บางอ้อ แขวง : บางพลัด จังหวัด กรุงเทพฯ: รหัสไปรษณีย์ : 10700 เบอร์โทร : 02-0740600 มือถือ : 0846663328 อีเมล : praseat5949@gmail.com เว็บไซต์ : www.ssc-services.net